My Summer Dessert – Baba au Rhum (Julia Child’s recipe)

Baba au Rhum
Baba au Rhum

หน้าร้อนปีนี้มาถึงเร็ว และก็ออกจะหนักหน่วงกว่าทุกๆปีนะคะ เรียกว่ามาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เพราะพอเริ่มจะรู้สึกร้อนอ้าวๆเท่านั้น แป๊บเดียวก็จัดเต็มแบบร้อนมากมายจนแทบทนไม่ไหว เล่นเอาคนรอบข้างได้รับผลกระทบ ป่วยไปตามๆกัน ฉันเองก็เหมือนกัน เรียกว่าร้อนจนแทบไม่อยากทำอะไร พาลจะไม่อยากอาหารตามไปด้วย (จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะคะ ได้คุมน้ำหนักไปด้วยในตัว 😉 ) ด้วยความที่ทานอะไรไม่ค่อยลง บางครั้งเลยรู้สึกโหยๆ เพลียๆ อยากทานอะไรหวานๆ เย็นๆ ชื่นใจๆ ที่ไม่ค่อย rich มาก จะทานเค้กมันก็หนักเกิน หรือจะทานขนมตามฤดูกาล อย่างข้าวเหนียวมะม่วง หรือข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียนอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกว่าจะทำร้ายกระเพาะของตัวเองมากไป เลยไม่รู้ว่าจะเอาไงดี หันไปหันมา เลยนึกถึงขนมแสนอร่อยชนิดนี้ขึ้นได้ เพราะเคยทานตอนไปเที่ยวต่างประเทศ และจำได้ว่ามันอร่อยม้ากกกก เป็นขนมเนื้อบางเบา ราดด้วย rum syrup หอมหวานชื่นใจสุดๆ ทานกับครีม และผลไม้สด อร่อยเลิศเลอมาก ที่ต้องเรียกว่าเป็นขนมเนื้อบางเบา ก็เพราะมันจะเป็นเค้กก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นขนมปังหวานก็ไม่เชิง ทางฝรั่งเจ้าของสูตรเค้าเลยเรียกเจ้าตัวขนมชนิดนี้ไว้อย่างน่ารักว่า Baba ค่ะ เวลาทานก็ราดกับ rum syrup ให้ชุ่ม เพิ่มวิปครีมกับผลไม้ตามฤดูกาลได้ตามชอบใจ

โดยเจ้า Baba au Rhum นี้นางเป็นสาวฝรั่งเศสค่ะ กรรมวิธีการทำก็เลยต้องน่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง ละเมียดละไม ตามแบบสาวฝรั่งเศสไปด้วย ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เกี่ยวกับอาหารสุดคลาสสิคเรื่อง Babette’s Feast (มีแปลไทยด้วยนะคะ โดยฉันเอง ชื่อไทยว่า “งานเลี้ยงของบาเบตต์” ขออนุญาตโฆษณาแป๊บ 55555) คงต้องจำขนมปิดท้ายมืออาหารสุดอลังการของบาเบตต์ได้เป็นอย่างดี ที่เป็นขนมในพิมพ์รูป Bundt แล้วราดด้วย rum syrup ทานกับผลไม้สดนั่นล่ะค่ะ โดยขนมแสนน่ารักที่อร่อยเลิศเลอจานนั้นก็คือเจ้า Baba au Rhum ที่ฉันกำลังพูดถึงนี่เอง หรือถ้านักดูหนังรุ่นใหม่ขึ้นมาหน่อย คงจำเรื่อง Julia ที่เป็นเรื่องราวของ Julia Child ปรมาจารย์ด้านอาหารของอเมริกาได้ ขนมนี้ก็อยู่ในหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ โดยสูตรที่ฉันใช้ก็คือสูตรของคุณจูเลีย ไชล์ดนี่เอง เพียงแต่ปรับไปใช้พิมพ์เค้กแบบ bundt แทนพิมพ์แท่งทรงจุกคอร์กแชมเปญ เพราะหาง่ายกว่า (และก็เป็นพิมพ์ที่บาเบตต์เลือกใช้ด้วย ^_^ )

แต่จะว่าไปสาวฝรั่งเศสนางนี้ มีบรรพบุรุษที่อพยพมาจากโปแลนด์ในศตวรรษที่ 18 โดยเข้ามาทางแคว้น Alsace-Lorraine เป็นขนมที่กษัตริย์โปแลนด์ที่ทรงลี้ภัยมาอยู่ฝรั่งเศสโปรดมาก เลยหอบหิ้วนางมาด้วย นางเลยกลายเป็นสาวฝรั่งเศสตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนเป็นที่รู้กันว่าถ้าพูดถึง Baba (yeast bread) ก็ต้องราดด้วยรัมคู่กันไป ❤

ทราบประวัติกันพอหอมปากหอมคอแล้วนะคะ ถึงคราวลงมือทำกันซักทีเนอะ 🙂

Baba au Rhum (Julia Child’s recipe)

* ส่วนผสม *

เนย 60 กรัม

ยีสต์แห้ง 10 กรัม ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับ 1 ช้อนชา

น้ำอุ่น 45 มิลลิลิตร

น้ำตาล 2 ชต

เกลือ 1/8 ชช

ไข่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง

แป้ง 1 1/3 ถ้วย

* วิธีทำ *

ละลายเนย แล้วพักไว้ให้เย็น ระหว่างนั้นก็ละลายยีสต์ กับน้ำอุ่นในชามผสม อาจใช้มือ หรือตะกร้อตีไข่คนให้ยีสต์ละลายจนหมด จากนั้นเติมนำ้ตาล เกลือ และไข่ คนให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่แป้ง กับเนยละลายลงไป ใช้ช้อนไม้คนให้เข้ากัน

พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนก็ใช้มือนวด โดยนวดลงไปในชามผสมนั่นแหละค่ะ แป้งจะหนืดมาก ไม่ต้องตกใจนะคะ ดึงและตบแป้งไปมากับชามผสมแรงๆ ทำจนกระทั่งแป้งขมวดเป็นก้อน หรือใช้เครื่องนวดแป้งก็ได้ นวดจนกระทั่งแป้งไม่ติดชามผสม จากนั้นก็ปั้นเป็นก้อน โรยด้วยผงแป้งเล็กน้อย ปิดฝาชามผสม แล้วปล่อยให้แป้งขึ้นฟูเป็นสองเท่า (ประมาณ 1 – 2 ชม. ก็ลองกะๆเอาค่ะ)

จากนั้นก็เอาพิมพ์ bundt ออกมา ทาเนยข้างในให้ทั่ว เสร็จแล้วก็ใส่แป้งที่ขึ้นฟูแล้วลงไป ปล่อยให้ขึ้นฟูอีก 1-2 ชม

ระหว่างนั้นก็เปิดเตาอบอุ่นรอไว้ที่อุณหภูมิ 180 C/375 F พอแป้งขึ้นฟูได้ที่ปั๊บ ก็เอาเข้าเตาอบเลย อบไปประมาณ 15 นาที แล้วยกออกมา หน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ

Baba หลังอบเสร็จใหม่ๆ
Baba หลังอบเสร็จใหม่ๆ

เอาออกมาพักไว้ให้หายร้อน ระหว่างนั้นก็เตรียมทำน้ำรัมเลยค่ะ มีข้อควรระวังก็คือ เวลาราดตัวเค้ก ทั้งน้ำเชื่อมรัม กับตัวเค้ก  Baba ต้องอุ่นๆ ห้ามร้อนนะคะ

 Rum Syrup 

* ส่วนผสม *

น้ำ 2 ถ้วย

น้ำตาล 1 ถ้วย

เหล้ารัม (Dark Rum) 1/2 ถ้วย

* วิธีทำ *

ผสมน้ำตาลลงในน้ำ ยกขึ้นตั้งไฟให้เดือด แล้วยกลง คนให้น้ำตาลละลายจนหมด ปล่อยทิ้งไว้ให้อุ่น แล้วจึงเติมเหล้ารัม ผสมแล้วออกมาเป็นสีแดงเข้มสวยเชียวค่ะ

Rum Syrup
Rum Syrup

เสร็จแล้วก็เอาน้ำเชื่อมรัมราดตัวเค้กเลยค่ะ ราดให้ชุ่ม แต่อย่าให้ชุ่มเกินไป โดยให้ยังคงรูปตัวเค้กอยู่ ถ้าใครชอบรัม ก็อาจหยดเหล้ารัมเพิ่มลงไปบนตัวเค้กเพื่อให้หอมกลิ่นรัมเพิ่มขึ้นไปอีกก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วนำเค้กมาผึ่งบนตะแกรงให้แห้งซักครึ่งชั่วโมง เพื่อไม่ให้ตัวเค้กแฉะเกินไป เค้กที่ราดน้ำรัมจนชุ่มแล้วจะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ จะหอมกลิ่นรัมม้ากกก 🙂

Baba soaked with rum syrup
Baba soaked with rum syrup

เสร็จแล้วก็แต่งด้วยวิปครีม (ที่ตีพร้อมกับน้ำตาล) และสตรอเบอร์รี่สด เวลาทาน ก็ตัดเค้กมา แล้วราดน้ำรัมลงไปให้ชุ่มอีกที แค่นี้ก็อร่อยที่สุดในสามโลกแล้วค่ะ ❤

Baba au Rhum แสนอร่อย
Baba au Rhum แสนอร่อย

Bon Apetit! 

4 ความเห็นบน “My Summer Dessert – Baba au Rhum (Julia Child’s recipe)”

  1. […] หลังจากอิ่มเอมกับพิซซ่ากันอย่างสุดๆกันแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของหวานบ้างค่ะ ซึ่งก็ไม่ธรรมดา และอร่อยล้ำคู่ควรกับพิซซ่าเช่นกัน เราสั่ง Le Baba ที่ขึ้นชื่อของ Napoli มาทาน เพราะคุณทัตแนะนำว่ามีรัมผสม เราทั้งคู่น่าจะชอบ ฉันเองสะดุดใจตั้งแต่คำว่า Le Baba แล้วค่ะ ก็เลยคุยกับคุณทัตว่ามันคือ Baba au Rhum แบบอิตาเลียนใช่มั้ย แกก็บอกว่าใช่ เพียงแต่เวอร์ชั่นอิตาเลียนจะต่างกับของฝรั่งเศสต้นแบบตรงที่จะใส่ไอศกรีมลงไปเพื่อให้ทานง่ายขึ้น จริงๆฉันเคยไปทาน Le Baba ครั้งแรกที่เจนีวา ในร้านอาหารทีมีชื่อในย่านการูจ – Carouge ซึ่งเป็นย่านอิตาเลียนเก่าแก่ของเจนีวา แล้วประทับใจในความอร่อยชื่นใจของมันมาก และก็มีโอกาสได้ทาน Baba au Rhum อีกครั้งที่ Brasserie Lipp ที่ปารีส (คราวนี้เป็นแบบฝรั่งเศสแท้ๆ) ก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ มาคราวนี้ เลยต้องขอชิม Le Baba ในกรุงเทพซักหน่อย ซึงก็อร่อยมากไม่แพ้กันเลยค่ะ ตัว baba ของที่นี่หั่นเป็นลูกเต๋า  ชุ่มน้ำรัมหอมมาก (baba ของอิตาเลียนจะหั่นเป็นลูกเต๋า ส่วนของฝรั่งเศสต้นแบบจะมาเป็นชิ้นใหญ่ๆแล้วราดน้ำรัมอย่างเดียว) ทางร้านใส่ไอศกรีมวานิลลา กับ crumble มาให้ด้วย อร่อยสุดๆ ค่ะ จริงๆ เคยให้สูตร Baba au Rhum ไว้ในบล็อกนี้ด้วยค่ะ คลิกดูสูตรได้เลยนะคะ […]

    ถูกใจ

  2. […] หลังจากอิ่มเอมกับพิซซ่ากันอย่างสุดๆกันแล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของหวานบ้างค่ะ ซึ่งก็ไม่ธรรมดา และอร่อยล้ำคู่ควรกับพิซซ่าเช่นกัน เราสั่ง Le Baba ที่ขึ้นชื่อของ Napoli มาทาน เพราะคุณทัตแนะนำว่ามีรัมผสม เราทั้งคู่น่าจะชอบ ฉันเองสะดุดใจตั้งแต่คำว่า Le Baba แล้วค่ะ ก็เลยคุยกับคุณทัตว่ามันคือ Baba au Rhum แบบอิตาเลียนใช่มั้ย แกก็บอกว่าใช่ เพียงแต่เวอร์ชั่นอิตาเลียนจะต่างกับของฝรั่งเศสต้นแบบตรงที่จะใส่ไอศกรีมลงไปเพื่อให้ทานง่ายขึ้น จริงๆฉันเคยไปทาน Le Baba ครั้งแรกที่เจนีวา ในร้านอาหารทีมีชื่อในย่านการูจ – Carouge ซึ่งเป็นย่านอิตาเลียนเก่าแก่ของเจนีวา แล้วประทับใจในความอร่อยชื่นใจของมันมาก และก็มีโอกาสได้ทาน Baba au Rhum อีกครั้งที่ Brasserie Lipp ที่ปารีส (คราวนี้เป็นแบบฝรั่งเศสแท้ๆ) ก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ มาคราวนี้ เลยต้องขอชิม Le Baba ในกรุงเทพซักหน่อย ซึงก็อร่อยมากไม่แพ้กันเลยค่ะ ตัว baba ของที่นี่หั่นเป็นลูกเต๋า  ชุ่มน้ำรัมหอมมาก (baba ของอิตาเลียนจะหั่นเป็นลูกเต๋า ส่วนของฝรั่งเศสต้นแบบจะมาเป็นชิ้นใหญ่ๆแล้วราดน้ำรัมอย่างเดียว) ทางร้านใส่ไอศกรีมวานิลลา กับ crumble มาให้ด้วย อร่อยสุดๆ ค่ะ จริงๆ เคยให้สูตร Baba au Rhum ไว้ในบล็อกนี้ด้วยค่ะ คลิกดูสูตรได้เลยนะคะ […]

    ถูกใจ

ใส่ความเห็น